วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ตัดต่อวีดีโอเบื้องต้นด้วย AVS Video Editor + Sonyvegas 10

    สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน...ห่างหายไปนานกับการเขียนบทความ  วันนี้พึ่งมีเวลาเขียนผมเลยเอาบทความเกี่ยวกับการตัดต่อวีดีโอมาฝากครับ  ซึ่งโปรแกรมที่ผมใช้คือ  AVS Video Editor +  Sonyvegas 10 ทีแรกผมว่าจะใช้ AVS Video Editor อย่างเดียว  เพราะผมไม่เคยใช้เลยอยากจะลองใช้ดู  แต่ผลออกมาคือเสียงที่เราใส่ลงไป มันมีการกระชากของเสียงครับ  ทำยังไงก็ไม่หาย   ก็เลยเอา Sonyvegas 10 มาช่วยในเรื่องของเสียงที่เราเอาเข้าไป  มาดูขั้นตอนการทำเลยครับ  อันดับแรกนั้นผมจะใช้ AVS Video Editor  ในการตัดวีดีเอาเฉพาะส่วนที่เราอยากจะได้นะครับ (คลิปทดสอบอยู่ข้างล่างนะครับ)

นี่คือหน้าตาโปรแกรม AVS Video Editor นะครับ


     แล้วต่อไปเราจะนำวีดีโอที่เราต้องการจะตัดเข้ามาโดยการคลิกที่ Media Library แล้วตามด้วย Import





เลือกวีดีโอที่เราต้องการ



วีดีโอที่เราเลือกจะเข้ามาในนี้นะครับ



ทำการลากไฟล์ที่เราจะตัดมาใว้ใน Track วีดีโอนะครับแล้วคลิกที่ Trim เพื่อตัดวีดีโอ



     เมื่อเราคลิกแล้วหน้าตาจะเป็นยังงี้นะครับ  จุดเริ่มต้นในการตัดก็คือเราจะเริ่มเอาวีดีโอตรงตำแหน่งไหน  และจุดสุดท้ายคือ  เราจะจบตอนไหนครับ



พอได้ตามที่ต้องการแล้วเราก็คลิกที่ ok แล้วจะได้ไฟล์ที่เราตัดมาครับ



ทำการบันทึกโดยการคลิกที่ Produce 



เลือกเป็นไฟล์นะครับ



นี่เป็นการเลือกประเภทวีดีโอนะครับ...ตามภาพเลยครับ


รายละเอียดต่างๆตามภาพเลยครับ..อิอิเมาไม่ขออธิบายดีกว่า....



กำลังดำเนินการครับ



ถ้าตัดเสร็จแล้วก็จะขึ้นดังภาพที่เห็นครับ



     ก็ทำจนกว่าเราจะพอใจในคลิปนะครับ  จะเอามากเอาน้อยก็แล้วแต่ความพอใจของท่านเองนะครับ  สำหรับผมทำออกมาไม่มากเท่าไรตามภาพที่เห็นเลยครับ  เมื่อตัดเสร็จแล้วก็ทำการ Import คลิปที่เราตัดเข้ามาใหม่นะครับ  เพื่อจะทำการต่อวีดีโอ



     ทำการลากวีดีโอที่เราต้องการมาต่อกันเลยครับ  ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละบุคคลนะครับว่าจะเอาอันใหนขึ้นก่อนขึ้นหลัง....




     เมื่อเรานำมาต่อกัน..เราก็ใส่เอฟเฟกให้เวลาเปลี่ยนภาพนะครับ  เลือกตามใจชอบเลยนะครับ



     ถ้าเราต้องการให้เอฟเอกทำงานนานหรือเร็วก็กำหนดการเลือนที่เฟรมเอานะครับ



     สำหรับเส้นสีแดงนั้นคือเสียงของวีดีโอนะครับ..เราจะทำการปิดเสียงในช่วงนี้โดยการคลิกขวาแล้วเลือก Mute



     สำหรับเอฟเฟกตัวอักษรก็คลิกเลือกที่ Text แล้วก็ลากมาใส่เหมือนกับวีดีโอนะครับ



     จะได้ดังภาพนะครับ  แล้วก็ดับเบิ้ลคลิกที่ Track Text เลยครับ  เพื่อก็ไขตัวอักษร



เมื่อดับเบิ้ลคลิกแล้วก็จะได้ดังภาพครับ



แก้ใขตัวอักษรตามต้องการครับ



แล้วก็คลิกปุ่ม Ok ครับ



แล้วจะได้ดังรูปครับ..ทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งตามต้องการครับ



     เมื่อทำการปรับเปลี่ยนตำแหน่งที่ต้องการแล้ว  ผลออกมาจะเป็นยังงี้ครับ



ทำการบันทึกครับ  ให้เลือกตามภาพเลยนะครับ






      ก็ยังที่กล่าวมาข้างต้นนี้นะครับ  โปรแกรมนี้เอาเสียง mp3 ใส่แล้วมีการกระชากของเสียง  เราเลยใช้โปรแกรม Sonyvegas 10 เข้ามาช่วยครับ  ทำการเปิดโปรแกรมครับ





หน้าตาโปรแกรมครับ  จะคล้ายๆกันนะครับ



     ทำการนำวีดีโอที่เราบันทึกใว้เข้ามาครับ  แล้วลากมาใส่เหมือนกับที่เราเคยทำในโปรแกรม AVS Video Editor  และทำเพลงเข้ามาด้วยนะครับ



เมื่อทำการปรับเสียง  วีดีโอทั้งหมดแล้ว  ก็จะได้งานทั้งหมดครับ



     ทำการ Render เพื่อบันทึกไฟล์วีดีโอครับ  โดยไปที่  File - Render As  แล้วปรับตามภาพเลยนะครับ


     เป็นไงครับ  ไม่ยากเลยใช่ใหม่ครับสำหลับการตัดต่อวีดีโอ  สำหรับผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า พึ่ง ฝึกหัดทำครับ  อิอิ  ไม่ค่อยเก่งเท่าไรหรอกครับ  บางทีเพื่อนๆพี่ๆอาจจะทำดีกว่าผมหลายเท่าเลยด้วยซ้ำลองดูผลการตัดต่อที่คลิปด่านล่างนี้นะครับ  สำหรับวันนี้ผมก็ขอลาไปก่อน  เจอกับกับบทความต่อไป  สำหรับวันนี้ ถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  สวีสดีครับ...อิอิ...เมาาาา....








วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การใช้งาน Cookise


     สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน  วันนี้นี้ผมมีบทความเกี่ยวกับการใช้งาน คุกกี้ (Cookies)  มาฝากครับ  (ไม่ได้เกี่ยวกับภาพประกอบนะครับ..อิอิ) สำหรับ คุกกี้ (Cookies) นั้นมีความสำคัญอย่างไรนั้น  คนที่เขียนเว็บคงรู้ดีนะครับ  คุกกี้ (Cookies) เป็นรูปแบบการเก็บข้อมูลบางอย่างไว้บนเครื่องของผู้ใช้งาน  เพื่อที่จะนำข้อมูลกลับมาใช้ใหม่ในภายหลัง เช่น ชื่อผู้ใช้งานในเว็บไซต์นั้นๆ..ซึ่งเมื่อเราเข้าไปใช้งานในเว็บไซต์เป็นครั้งแรก  สำหรับครั้งต่อไปก็จะดึงข้อมูลใน คุกกี้ (Cookies) มาใช้ใหม่  ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการเข้าเว็บครั้งต่อไปครับ

     มาทำหน้าทดสอบการเก็บค่า คุกกี้ (Cookies) กันครับ......

     สำหรับหน้าเว็บนั้นผมเลือกทำแบบง่ายๆยังงี้เลยนะครับ..( ขี้เกียจทำ..อิอิ.กำ )

เสร็จแล้วก็ทำการก๊อปโค๊ดข้างล่างนี้ไปใส่เลยครับ

Public Class login1
    Inherits System.Web.UI.Page

    Protected Sub Page_Load(ByVal sender As Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Me.Load
        If (Request.Cookies("login") Is Nothing) Then
            Label2.Text = "ยังไม่มีข้อมูล"
        Else
            TextBox1.Text = Request.Cookies("login").Value
            Label2.Text = "Cookies ถูกใช้งาน"
        End If
    End Sub

    Protected Sub Button1_Click(ByVal sender As Object, ByVal e As EventArgs) Handles Button1.Click
        If RadioButton1.Checked Then
            Response.Cookies("login").Value = TextBox1.Text
            Response.Cookies("login").Expires = DateAndTime.Now.AddDays(5)
        End If

    End Sub
End Class

   
     ซึ่งผมจะขออธิบายโค๊ดที่ใช้ดังต่อไปนี้นะครับ
                                         
     นี้เป็นส่วนของการเก็บข้อมูล คุกกี้ ( Cookies )  นะครับ  คือเมื่อเรากรอกข้อมูลแล้ว  ถ้าเรากดที่ RadioButton1  แสดงว่าเราต้องการเก็บข้อมูล ( ในที่นี้ผมแสดงให้ดูเฉยๆนะครับ  ในการใช้งานจริงๆก็ไปต้องทำ RadioButton1 นะครับ  ทำให้เก็บโดยอัตโนมัตเลย ) .....  เมื่อกดที่ RadioButton1 แล้ว  ก็จะทำการเก็บข้อมูลใน TextBox1 ลงใน Cookies ครับ  สำหรับบรรทัดลงมา  เป็นการกำหนดเวลาหมดอายุของคุกกี้ (Cookies )  ครับ ปกติแล้วถ้าเราไม่กำหนดนั้น  คุกกี้ (Cookies) จะหมดอายุทันนีเมื่อปิดเว็บบราวเซอร์  แต่ที่ผมเขียนลงไปกำหนดให้หมดอายุภายใน 5 วันนะครับ....




     นี่คือส่วนของการนำมาใช้งานครับ  if  คือ ถ้าไม่มีข้อมูลใน คุกกี้ (Cookies) ก็ให้ Label2 แสดงว่า " ยังไม่มีข้อมูล" Else คือถ้าไม่ใช่ ให้เอาข้อมูลในคุกกี้มาแสดงใน Text1 และให้ Label2 แสดงข้อความว่า Cookies ถูกใช้งาน....


     เรามาดูของจริงกันเลยครับ........


นี้คือเข้ามาครั้งแรกนะครับ  สังเกตว่า Text1 จะว่างครับ


ลองลงชื่อเข้าใช้ดูครับอย่าลืมกดที่  เก็บ Cookies นะครับ


     นี่คือเม์อเรา Login เข้ามาแล้วนะครับ แล้วลองก็อป Url ไปเปิดหน้าอื่นก็จะพบว่ามีชื่อเราขึ้นที่ Text ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาในการกรอก User  ตอนเข้าเว็บใหม่นะครับ  และถ้ามีผู้ใช้งานหลายคนก็แค่พิมพ์ตัวนำหน้า  ชื่อเราก็จะขึ้นแล้วครับ  เหมือน Google เลยยยย....
     มาถึงตอนท้ายแล้วครับ  ก็คงจะรู้กันแล้วนะครับว่า คุกกี้ Cookies นั้นใช้งานยังไง  สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านโชคดีมีความสุขกับการเขียนโปรแกรมและเว็บ...สำหรับวันนี้..สวัสดีครับ......







วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

โปรแกรมส่ง E-Mail !!! ( vb.net ) O_o !

     สวัสดีครับทุกท่าน  วันนี้ผมมีบทความเกี่ยวกับโปรแกรมมาฝาก  มันคือ...โปรแกรมส่ง E-Mail  ครับ  ณ  เวลานี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก E-mail นะครับ  เพราะ E-Mail นั้นได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากมาย  เช่น ส่งงานอาจาย์, ส่งงานที่ทำงาน, ระบบสมัครสมาชิก ฯลฯ  และอีกอย่างที่ทำให้ E-Mail ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากคือ  ฟรี ครับ  และสามารถส่งให้ใครก็ได้ที่ไหนก็ได้ไม่จำกัด.....ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ใช้งาน E-Mail ค่อนข้างบ่อย  ส่งที่ผมนั้นรำคาญมากที่สุดคือ  การ Login  เข้าหน้าเว็ป ครับ  คือ  บางครั้งก็เข้า  บางครั้งก็ไม่เข้า  บางครั้งก็รอนานมาก.....  ผมจึงได้คิดพัฒนาโปรแกรมนี้ขึ้นมา  เพื่อตัดปัญหาที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นนะครับ  ซึ่งผมก็ได้อาศัยความรู้พื้นฐานที่ได้เรียนมากับ อ.เกษม กมลชัยพิสิฐ( สามารถติดตามดูบล็อกของท่านได้ที่ http://kasem-mesak.blogspot.com/  ) และความรู้ในอิิินเตอร์เน็ต  มาพัฒนาต่อยอดขึ้นมา  จึงเป็นโปรแกรมส่ง E-Mail ที่จะทำต่อไปนี้ครับ
     มาดูขั้นตอนการทำเลยนะครับ  สำหรับคนที่เขียนโปรแกรมไม่เป็นหรือขี้เกียจเขียน  ผมก็มีตัวโปรแกรมให้ดาวน์โหลดที่นี่ครับ  ดาวน์โหลด  


    สำหรับการเขียนโปรแกรมในครั้งนี้เราใช้ภาษา  vb.net เหมือนเดิมนะครับ  เมื่อเปิดโปรแกรมแล้ว  ก็ทำการสร้างหน้า Form  อย่างในรูปเลยนะครับ.....


     แล้วก็ทำการก๊อปโค๊ตข้างล่างนี้ไปไส่ในหน้า  vb  นะครับ.....


Imports System.Net.Mail
Public Class Form1
    Private Sub Button1_Click_1(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button1.Click
        If RadioButton1.Checked Then
            If TextBox3.Text = "" Then
                MsgBox("Name, Subject and Comment are required fields", vbCritical, "Error")
            Else
                Try
                    Dim Mail As New MailMessage
                    Mail.From = New MailAddress(TextBox5.Text)
                    Mail.To.Add(TextBox5.Text)
                    Mail.Subject = TextBox2.Text
                    Mail.Body = TextBox3.Text
                    Dim smtp As New SmtpClient("smtp.live.com")
                    smtp.Port = 587
                    smtp.EnableSsl = True
                    smtp.Credentials = New System.Net.NetworkCredential(txtemail1.Text, txtPass.Text)
                    smtp.Send(Mail)
                    MsgBox("ทำการส่ง E-Mail เรียบร้อย", vbInformation, "ขอบคุณ")
                    txtemail1.Text = ""
                    txtPass.Text = ""
                    TextBox2.Text = ""
                    TextBox3.Text = ""
                    TextBox5.Text = ""
                Catch ex As Exception
                    MsgBox("ข้อมูลผิดพลาด กรุณาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง", MsgBoxStyle.Critical + MsgBoxStyle.ApplicationModal, "การทำงานผิดพลาด")
                End Try
            End If

        Else

            If TextBox3.Text = "" Then
                MsgBox("Name, Subject and Comment are required fields", vbCritical, "Error")
            Else

                Try
                    Dim Mail As New MailMessage
                    Mail.From = New MailAddress(TextBox5.Text)
                    Mail.To.Add(TextBox5.Text)
                    Mail.Subject = TextBox2.Text
                    Mail.Body = TextBox3.Text
                    Dim smtp As New SmtpClient("smtp.gmail.com")
                    smtp.Port = 587
                    smtp.EnableSsl = True
                    smtp.Credentials = New System.Net.NetworkCredential(txtemail1.Text, txtPass.Text)
                    smtp.Send(Mail)
                    MsgBox("ทำการส่ง E-Mail เรียบร้อย", vbInformation, "ขอบคุณ")
                    txtemail1.Text = ""
                    txtPass.Text = ""
                    TextBox2.Text = ""
                    TextBox3.Text = ""
                    TextBox5.Text = ""
                Catch ex As Exception
                    MsgBox("ข้อมูลผิดพลาด กรุณาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง", MsgBoxStyle.Critical + MsgBoxStyle.ApplicationModal, "การทำงานผิดพลาด")
                End Try
            End If
        End If
    End Sub
    Private Sub Button2_Click(ByVal sender As System.Object, ByVal e As System.EventArgs) Handles Button2.Click
        Close()
    End Sub
End Class


     แค่นี้เองครับสำหรับโค๊ตการส่ง E-Mail  ......


     สำหรับคนที่โหลดโปรแกรมที่ผมทำไว้นั้น..มาดูวิธีการติดตั้งกันครับ.....
ดาวน์โหลด


     วิธีการติดตั้งก็จะเหมือนโปรแกรมทั่วๆไปนะครับ   Next  ครับ



     หน้านี้ก็เป็นการประกาศเกี่ยวกับโปรแกรมครับ  Next....เหอะๆ..มีเบอร์โทรเราด้วย....อิอิ..กำ...



      ยอมรับข้อตกลงของโปรแกรมครับ เลือก I agree  แล้ว Next  ครับ



     เลือกที่ลงโปรแกรมแล้วคลิก Next ครับ



     เริ่มขั้นตอนการลงโปรแกรมคลิก  Start  ครับ



     คลิก Next ครับ



     เสร็จสิ้นการลงโปรแกรมครับ คลิก Next



รูป icon  โปรแกรมครับ



หน้าตาโปรแกรมครับ

     เป็นไงครับ  ไม่ยากเลยใช่ไหนครับกับการเขียนโปรแกรมส่ง E-Mail  และเรายังสามารถนำไปต่อยอดทำเป็นโปรแกรมตอบรับลูกค้าในเว็ปได้อีกด้วยนะครับ  สำหรับวันนี้ผมก็ขอจบบทความเพียงเท่านี้  สำหรับท่านที่มีข้อสงสัย  สามารถโพสถามได้ในหน้านี้นะครับ  แล้วเจอกันในบทความหน้าในเรื่องของโปรแกรมส่ง SMS  อิอิ  โปรดติดตามตอนต่อไป..สำหรับวันนี้..สวัสดีครัาบบ  













วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Acer 4540g กระตุก!!!

     สวัสดีครับทุกท่าน  วันนี้ผมมีบทความเกี่ยวกับโน๊ตบุ๊ค ACER  อีกแล้วครับท่าน  รู้สึกว่า  Acer จะมีปัญหาบ่อยมากกว่าเพื่อนนะครับ  วันนี้เป็นการแก้ไขอาการกระตุกของ 4540g นะครับ  อาการคือจะเป็นเฉพาะวินโดว์  7  นะครับ  คือเมื่อเปิดไปจะมีอาการกระตุกเป็นช่วงๆนะครับ  ถ้าเปิดเพลงหรือหนังไปด้วยอาการจะเห็นได้ชัดเลยครับ  ซึ่งอาการนี้ไม่ได้เป็นที่เครื่องที่ผมทำเครื่องเดียวนะครับ  แต่รู้สึกว่าจะเป็นทุกเครื่องของรุ่นนี้เลยก็ว่าได้  ผมเคยลองหาในอินเตอร์เน็ตดู  มีคนโพส์ไว้เยอะเลยครับสำหรับรุ่นนี้  บางคนก็เอาไปเข้าศูนย์  เค้ากับบอกมาว่าต้องเปลี่ยนชิปเพราะว่าชิป ไม่รองรับวินโดว์ 7 !!!  อ้าววแล้วทำไมตอนไปโหลดไดเวอร์ไม่มี  XP  ให้โหลด  กำ  บางคนบอกว่า แฟสไบออส  บางคนบอกว่า อัปเดทไดเวอร์...เหอะๆ คุณรู้ไหมครับ  ผมทำทุกอย่างที่มีในอินเตอร์เน็ต   แต่ก็เป็นเหมือนเดิม  ลองแล้วลองอีก  จนกระทั่ง!!  ผมเจอวิธีที่ทำให้หายได้ครับ  มาดูวิธีกันเลยครับ !!!


     ก่อนลงวินโดว์เราต้องไปปรับ SATA Mode เป็น IDE Mode ก่อนนะครับ  โดยการเข้าไปปรับที่ไบออส คือเมือเปิดเครื่อง ต้องรีบกด F2 ย้ำๆ นะครัยแล้วเข้าไปที่หัวข้อ Main แล้วเลื่อนลงมาที่หัวข้อสุดท้าย  คือ SATA Mode  ครับ  แล้วปรับตามรูป   จากนั้นก็ทำการลงวินโดว์ตามปกติครับ
     เมื่อลงวิโดว์เสร็จแล้วให้ทำการเป็นจาก IDE เป็น AHCI ตามวิธีนี้ครับ




1.คลิก start พิมพ์ regedit ในช่อง Search box แล้วกด Enter
2.ไปตามนี้ HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\Msahci


                   HKEY_LOCAL_MACHINE\System\CurrentControlSet\Services\IastorV


3.จากข้อ 2 จะเห็นว่ามี2จุด ที่ต้องไปทำเหมือนกัน ในช่องด้านขวาให้คลิกขวาที่คำว่า Stat เลือก Modify
   ในช่อง Value data ให้เปลี่ยนเป็นเลข 0 กด OK
4. Restart เครื่อง เป็นอันเสร็จแล้วครับ

     มีแค่นี้เองครับ  หลังจากนั้นเครื่องของท่านก็จะหายกระตุกเลยอ่าครับแฮ่ๆ  ติดภาษา m ซะงั้น  เป็นอันว่าใครมีโน๊ตบุ๊ครุ่นนี้อยู่  หรือที่มีอาการยังงี้  ลองทำดูนะครับ  ผมรับรองว่าหายจากอาการกระตุกแน่ๆครับ  สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปเพียงเท่านี้  แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไป...สวัสดีครับ...